วันนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้จัด 「การประชุมสภารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องว่าด้วยการรับทรัพยากรบุคลากรชาวต่างชาติและการอยู่รวมกัน」 และได้มีมติเห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตามพ.ร.บ.คนเข้าเมืองควบคุมการสร้างระบบใหม่「การพัฒนาบุคลากร」เข้ามาแทนที่ระบบการฝึกงานด้านเทคนิคโครงการฝึกอบรมฝึกงานด้านทักษะ พร้อมกันนี้รัฐบาลยังได้ตัดสินใจพิจารณาชี้แจงข้อกำหนดเพิ่มเติมสำหรับสถานภาพการพำนักถาวรและการเพิกถอนสถานภาพการพำนักของผู้อยู่อาศัยถาวรหากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดอีกต่อไป เพื่อตอบสนองต่อการเพิ่มจำนวนของชาวต่างชาติมากขึ้นตามที่ได้คาดหวังไว้ ภายใต้ระบบ Specified Skills Worker ผู้ถือวีซ่าอาจอาศัยอยู่ได้อย่างถาวร เราต่อต้านนโยบายนี้เป็นอย่างมากเนื่องจากการเพิกถอนสถานะผู้อยู่อาศัยถาวร ไม่เพียงแต่จะบั่นทอนสถานะของชาวต่างชาติที่ถือสถานะผู้อยู่อาศัยถาวรอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น แต่เป็นของชาวต่างชาติทั้งหมดที่ประสงค์จะยื่นขอสถานภาพผู้อยู่อาศัยถาวรในอนาคตอีกด้วย
สถานภาพการพำนัก 「ผู้พำนักถาวร」 คือสถานะการพำนักที่มอบให้กับผู้ที่ปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเข้มงวด เช่น การอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นเป็นระยะเวลาหลายปีและมีการใช้ชีวิตที่มั่นคง โดยส่วนใหญ่สถานภาพการพำนักอื่นๆนอกเหนือจาก 「ผู้พำนักถาวร」 แล้วจะต้องต่ออายุสถานะพำนักของตนเองทุกครั้งที่ระยะเวลาการพำนักสิ้นสุดลง และหากมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหากิจกรรมในกรณีสถานภาพการพำนัก เช่น การเปลี่ยนสถานะการทำงานหรือนักศึกษาที่เรียนจบแล้วหรือหากมีการเปลี่ยนแปลงสถานะการพำนักจะเป็นคู่สมรส เมื่อคู่สมรสเสียชีวิต หรือแยกกันอยู่ อย่างไรก็ตามมีความเสี่ยงที่อาจไม่สามารถอัปเดตได้เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ต่างๆเพื่อวัตถุประสงค์โดยเฉพาะ สถานการณ์ที่เลี่ยงความเสี่ยงเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ชาวต่างชาติที่ถือสถานะของผู้อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นอย่างถาวร รู้สึกปลอดภัย มั่นคงในการดำรงชีวิตประจำวัน และต้องการสถานภาพการพำนักที่มั่นคงโดยไม่ต้องวิตกกังวลใจดังกล่าว 「ผู้พำนักถาวร」 ควรมีสถานะการพำนักดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การตรวจสอบใบอนุญาตสถานะผู้พำนักถาวรมีข้อกำหนดที่เข้มงวดมากขึ้น และมีจำนวนชาวต่างชาติจำนวนมากและเพิ่มมากขึ้นที่ถูกปฏิเสธจะไม่ได้รับใบอนุญาตสถานะผู้พำนักถาวร แม้ว่าจะอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นเป็นระยะเวลานานมาหลายปีแล้วก็ตาม
รัฐบาลยังไม่เปิดเผยรายละเอียดให้ชัดเจนว่าได้พิจารณาด้วยเหตุผลประการใดในการเพิกถอนสถานภาพการพำนัก แต่หลังจากได้รับใบอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ถาวร ในขณะเดียวกัน การเพิกถอนสถานะผู้พำนักถาวรจะทำให้ผู้ที่มีถิ่นที่อยู่ถาวร หลังจากอาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นระยะเวลาหลายปี ข้อกำหนด ณ เวลาที่ได้รับอนุญาตก็ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดอีกต่อไป สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ในทางกลับกัน การเพิกถอนใบอนุญาตมีถิ่นที่อยู่ถาวรทำให้ชาวต่างชาติขาดการดำรงชีวิตที่มั่นคงที่พวกเขาสร้างขึ้นมาจากการทำงานหนักในญี่ปุ่นมานานหลายปี ความเป็นอยู่ที่มั่นคงอาจถูกเพิกถอนสถานภาพการพำนักได้เนื่องด้วยเหตุผลต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้กับใครก็ได้ เช่น ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดในการดำรงชีวิตในขณะที่ได้รับอนุญาตได้ เนื่องจากการเจ็บป่วย การว่างงาน การเปลี่ยนแปลงทางสังคม หรือการไม่ชำระภาษีหรือไม่ชำระเงินประกันสังคมเนื่องจากมีรายได้ลดลง หรือเกิดความผิดพลาดในขั้นตอนหากถูกเพิกถอนใบอนุญาต จะทำให้ชาวต่างชาติจะไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างรู้สึกปลอดภัย นอกจากนี้การค้างชำระภาษี การค้างเงินประกันสังคม การละเมิดกฎหมายและข้อบังคับเล็กน้อยที่ไม่เข้าข่ายเป็นเหตุให้มีการถูกเนรเทศ ก็เพียงพอแล้วที่จะกำหนดบทลงโทษ เช่น การแจ้งเตือน การยึด การลงโทษทางปกครอง และการลงโทษทางอาญาตามกฎหมายเช่นเดียวกับคนญี่ปุ่น ดังนั้นหากเฉพาะชาวต่างชาติเท่านั้นที่ต้องถูกลงโทษด้วยการเพิกถอนสถานภาพการพำนัก แม้ว่าพวกเขาได้ดำรงชีวิตในประเทศญี่ปุ่นโดยสมบูรณ์และได้รับถิ่นที่อยู่ถาวรแล้วก็ตาม เท่ากับเป็นการเลือกปฏิบัติต่อชาวต่างชาติ
นอกจากนี้ แม้จะอยู่ภายใต้กฎหมายญี่ปุ่นปัจจุบันที่มีอยู่ เมื่อมีการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จในขณะที่ยื่นใบสมัคร แม้แต่ผู้ที่อยู่อาศัยถาวรก็ตามแต่อาจถูกเพิกถอนสถานภาพการพำนักของตนได้ และผู้อยู่อาศัยถาวรก็อาจถูกเนรเทศได้ หากมีการละเมิดข้อกฎหมาย กฎหมายอาญา และกฎหมายอื่นๆบางประการ
การนำระบบการเพิกถอนสถานภาพการพำนักของผู้พำนักถาวร จะไม่เพียงแต่มีผลกระทบต่อชีวิตชาวต่างชาติเกือบ 900,000 คนที่อาศัยอยู่ในฐานะผู้อยู่อาศัยถาวรไม่มั่นคงอีกต่อไป (ณ เดือนมิถุนายน ปี2023: 880,178 คน คิดเป็น 27.3% ของชาวต่างชาติทั้งหมด) ซึ่งจะทำให้เกิดความวิตกกังวลอย่างมากต่อชาวต่างชาติที่วางแผนจะยื่นขอสถานะผู้พำนักถาวรเช่นกัน และสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดการต่อต้าน 「การตระหนักถึงสังคมที่ไม่มีการแบ่งแยก」 ที่รัฐบาลกำลังพยายามทำให้สำเร็จ นอกจากนี้ หากใบอนุญาตมีถิ่นที่อยู่ถาวรของเด็ก เด็กถูกเพิกถอนพร้อมกับการเพิกถอนสถานภาพการอยู่อาศัยของผู้ปกครอง (ณ สิ้นเดือนมิถุนายน ปี2011 มีผู้อยู่อาศัยถาวรจำนวน 103,104 คน ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี) สิ่งเหล่านี้จะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญมากต่ออาชีพการงานของเด็ก และอนาคต
อาจจะมีการประท้วงอย่างรุนแรงต่อนโยบายของรัฐบาลที่ทำให้ชาวต่างชาติที่ได้สร้างรากฐานการใช้ชีวิตในประเทศญี่ปุ่นและอาจตัดสินใจที่เลือกประเทศญี่ปุ่นเป็นที่พำนักสุดท้ายของพวกเขา การควบคุมและการเฝ้าระวังกำกับดูแลอย่างเข้มงวดตลอดชีวิตของพวกเขา ทำให้สถานะการพำนักที่มั่นคงที่สุด อาจถูกริดรอนสถานะได้ เราคัดค้านนโยบายของรัฐบาลนี้เป็นอย่างยิ่ง
วันที่ 9 เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2024
เครือข่ายความสามัคคีกับผู้อพยพย้ายถิ่นฐานประเทศญี่ปุ่น (SMJ)